กรงตาแมว



คำอธิบาย

กรงตาแมวเป็นเครื่องมือดักหนู ใช้กระดานหกเป็นกลไกหลักในการทำงาน สามารถจับหนูได้ครั้งละหลายตัวในเวลาอันรวดเร็วและคัดเลือกหนูขนาดที่ต้องการได้

กรงตาแมวเป็นกล่องไม้รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร ยาวประมาณ 50 เซนติเมตร สูงประมาณ 20 เซนติเมตร ด้านบนทำฝาไม้ปิดโดยทำรางเลื่อนดึงเข้าดึงออกได้ มีฝากั้นแบ่งเป็น 2 ห้อง คือห้องด้านหน้า (กลไกดักหนู) และห้องด้านใน (ห้องกักหนู) ห้องด้านหน้าเป็นทางเข้า มีขนาดเล็กกว่าห้องด้านในที่ใช้กักหนู ที่ห้องด้านหน้าซึ่งเป็นกลไกดักหนูนี้ เจาะช่องปากทางเข้าเป็นช่องกลมๆ 2 ช่อง ภายในห้องด้านหน้านี้กั้นห้องแบ่งครึ่งอีกเพื่อกักหนูที่เดินผ่านช่องกลมเข้ามา ไม้แผ่นหน้าที่เจาะวงกลมต้องทำ 2 ชิ้น ตีคู่กัน มีช่องว่างระหว่างกันใช้เป็นที่วางไม้วงกลมซึ่งทำหน้าที่เหมือนฝาประตู ไม้วงกลมทำงานสัมพันธ์กับกระดานหกเพราะเชื่อมโนงอยู่กับกระดานหก โดยจะกลิ้งไปอยู่กับด้านที่ต่ำ

ส่วนห้องด้านในเป็นที่ใส่เหยื่อล่อหนู และกักขังหนู ข้างฝาห้องส่วนนี้เจาะเหมือนช่องหน้าต่าง ใช้เหล็กเส้นเล็กๆ กั้นทำเป็นซี่กรง เมื่อใส่เหยื่อทำให้หนูได้กลิ่นเหยื่อชัดเจน และช่องหน้าต่างนี้ยังเป็นช่องระบายลมเมื่อมีหนูเข้าไปติดเครื่องมือด้วย ระหว่างห้องด้านหน้าและห้องด้านในมีฝากั้น โดยฝากั้นนี้เจาะช่องเป็นประตูเล็กๆ ทำเป็นซี่กรง วางประกบกับฝากั้นของห้องด้านใน เมื่อหนูผ่านประตูซี่กรงเข้าไปห้องด้านในแล้วจะดันประตูออกมาไม่ได้ เพราะซี่กรงใหญ่กว่าช่องประตู ลักษณะหน้าที่ของประตูซี่กรงนี้จะคล้าย "งา" ที่พบในเครื่องมือจับสัตว์จำนวนมาก โดยที่สัตว์ที่ผ่านเข้าไปแล้วจะกลับออกมาไม่ได้

โดยธรรมชาติ หนูจะเดินเลาะผนัง ถ้าเป็นหนูบ้านจะเดินเลาะตามฝาบ้าน ถ้าเป็นหนูนาจะเดินเลาะตามคันนา หนูจะเดินตามทางซ้ำๆ จนเกิดเป็นแนวทางเฉพาะของหนู สำหรับทางตามทุ่งนาจะเรียกว่า "ทางเตียน" หนูมักจะเดินเลาะซ้ายเลาะขวาตามทางเตียนไปเรื่อยๆ คล้ายๆ การเดินสลับฟันปลา เมื่อชาวบ้านตั้งใจดักหนูนา จึงนำเครื่องมือดักวางข้างทาง ไม่นิยมวางปลายทาง เมื่อหนูเลาะเล็มอาหารตามข้างทางจะเข้าไปในเครื่องมือในที่สุด

สำหรับกรงตาแมว นอกจากกำจัดหนูบ้านแล้ว ชาวบ้านบางคนยังใช้ดักหนูนาด้วย เพราะเป็นเครื่องมือที่ไม่ได้ทุบทำลายหนูเหมือนเครื่องมือดักหนูชนิดอื่นๆ จึงสามารถนำหนูนาที่ดักได้มาใช้ประกอบอาหารได้ด้วย

การใช้กรงตาแมวให้ได้ผลดี นอกจากการวางข้างทางเตียนซึ่งเป็นแหล่งที่มีหนูชุกชุมแล้ว ยังควรใช้ข้าวเปลือก ข้าวสาร ถั่ว เศษอาหาร โรยไว้หน้าปากทางเข้าและในห้องด้านใน เมื่อหนูเดินผ่านช่องวงกลมเข้าไปเหยียบไม้กระดานหก กระดานฝั่งนั้นจะต่ำลง ทำให้แผ่นไม้วงกลมกลิ้งลงมาปิดเป็นประตูขังหนูไว้ หนูจะเดินวนไปวนมา ใช้หัวดันตามผนังห้อง และจะเดินไปที่ประตูซี่กรงที่ "อ่อยเหยื่อ" ไว้ โดยจะดันประตูเข้าไปได้ แต่ไม่อาจดันกลับออกมาได้ หนูจะส่งเสียงร้อง ทำให้มีหนูตัวอื่นตามเข้ามาเรื่อยๆ โดยจะเข้าช่องวงกลมที่เปิดไว้ตามช่องวงกลมที่ทำงานสลับกัน จนได้หนูสัก 4-5 ตัว ซึ่งเต็มห้องกักจึงเลิกดัก เพราะได้เนื้อพอเพียงสำหรับแกงหม้อหนึ่ง

ส่วนที่น่าสนใจสำหรับกรงตามแมวคือ ห้องส่วนหน้าจะมีขนาดสั้นกว่าหางหนู กล่าวคือหางหนูมักจะยื่นยาวออกมานอกช่องประตูวงกลม เมื่อน้ำหนักตัวของหนูกดแผ่นกระดานหกต่ำลง ไม้วงกลมจึงกลิ้งลงมากระแทกหางหนู หนูจึงกระโจนผ่านประตูซี่กรงกรงเหล็กเข้าไปในห้องกักโดยทันที

กรงตาแมวสามารถจับหนูที่มีชีวิตได้ครั้งละหลายตัว เมื่อเทียบกับเครื่องมืออื่นๆ มักดักได้ครั้งละตัว หากใช้งานในบ้านเรือนสามารถทำช่องวงกลมทางเข้าค่อนข้างใหญ่เพื่อดักหนูตัวใหญ่ได้ แต่หากใช้ตามท้องทุ่งเพื่อดักกิน มักทำช่องวงกลมขนาดไม่ใหญ่นัก เพื่อไม่ให้หนูตัวใหญ่ซึ่งเป็นหนูแก่ผ่านเข้าไปได้ เนื่องจากชาวบ้านเลือกที่จะไม่กินหนูแก่ บ้างก็ว่าหนังก็เหนียว เนื้อก็เหนียวเกินกว่าจะแกงกิน บ้างก็ว่า "แก่เกินแกง" ซึ่งคงรวมถึงสัตว์อื่นที่เกินวัยจะนำมากิน