โกรกกราก



คำอธิบาย

ฟั่น หมายถึง คลึงสิ่งเป็นเส้นหลายเส้นให้เข้าเกลียวกัน เช่น ฟั่นด้าย, นำป่านหรือปอ เป็นต้น มาตีเกลียวให้เป็นเชือก เรียกว่า ฟั่นเชือก, คลึงขี้ผึ้งที่มีไส้อยู่ภายในให้เป็นเล่มเทียน เรียกว่า ฟั่นเทียน

          การฟั่นเชือกและฟั่นด้าย ยังคงเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับงานฝีมือมาจนปัจจุบัน เพราะเป็นการเสริมความแข็งแรงให้เชือกหรือด้าย และช่วยให้เป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย หากเชือกหรือด้ายที่ต้องการฟั่นไม่ได้ยาวมากนัก ภูมิปัญญาอย่างง่ายคือ การยึดปลายเชือกหรือด้ายไว้กับหลัก เช่น หัวแม่เท้า ขาโต๊ะ เป็นต้น แล้วก็เริ่มหมุนเชือกหรือด้ายหลาย ๆ เส้นให้เข้าเกลียวกัน แต่หากเป็นเชือกหรือด้ายเส้นใหญ่และยาว วิธีการง่าย ๆ เช่นนี้อาจจะทำให้ต้องใช้พื้นที่และระยะเวลามากเกินไป คนโบราณจึงมีการคิดค้นเครื่องมือที่ช่วยให้การฟั่นด้ายสะดวกสบายและประหยัดเวลาขึ้น

          โกรกกรากเป็นเครื่องทุ่นแรงสำหรับฟั่นเกลียวเชือก เกลียวด้าย และเกลียวค่าวเบ็ดราว ชื่อโกรกกรากมาจากเสียงลูกกลิ้งที่หมุนไปมาขณะดึงปลายเชือกทั้งสองข้างตอนใช้งานที่ดังคล้ายว่า “โกรกกราก ๆ” บางพื้นที่เรียกว่า “โกรกกรากฟั่นด้าย” ก็มี

          โกรกกรากทำจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้สัก ไม้ดู่ ไม้แดง ไม้เต็ง ไม้มะค่า เป็นต้น ใช้ไม้กระดานแผ่นเรียบขนาดประมาณ 25x45 ซม. จำนวนสี่แผ่นตอกเป็นกระบะรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เจาะรูด้านข้างให้เป็นแนวตรงกันทั้งสองด้าน ประมาณ 4-5 รู เรียงกันไป แล้วจึงสอดไม้ลูกกลิ้งที่เป็นไม้เนื้อแข็งทรงกระบอกปลายเรียวกลึงเรียบเข้าไป โดยปลายลูกกลิ้งด้านหนึ่งจะควั่นให้กลมเป็นปมสำหรับผูกเชือกหรือด้ายที่ต้องการฟั่น โดยต้องทำสองอันสำหรับโกรกกรากหนึ่งชุด

          วิธีใช้งานคือ นำเชือกไปผูกไว้ที่ปลายลูกกลิ้งของโกรกกรากทั้งสองอัน โดยโกรกกรากอันหนึ่งจะมีเชือกร้อยลูกกลิ้งให้หมุน ผู้ใช้งานต้องดึงปลายเชือกข้างหนึ่งให้ตึงและหย่อนปลายเชือกอีกด้านสลับกันไปเรื่อย ๆ เชือกหรือด้ายที่ต้องการฟั่นก็จะเริ่มเป็นระเบียบเรียบร้อย เมื่อเชือกหรือด้ายฟั่นเขม็งเกลียวแล้ว จะใช้ยางตะโกชุบให้ทั่ว แล้วถอดออกจากลูกกลิ้ง จับปลายเชือกหรือด้ายฟั่นให้เข้าเกลียวเป็นระเบียบเพื่อเก็บไว้ใช้งานต่อไป

          ปัจจุบัน แทบไม่พบเห็นการใช้โกรกกรากเพื่อฟั่นด้ายหรือเชือกแล้ว เพราะมีเครื่องทุ่นแรงสมัยใหม่ หรือหากต้องใช้แรงคน ก็ไม่ใช้ไม้เนื้อแข็งเป็นวัสดุหลักในการผลิตแล้ว แต่จะใช้วัสดุอื่นทดแทน เช่น พลาสติกหรือโลหะ ที่สำคัญคือใช้หนึ่งคนในการควบคุมเครื่องก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องมีสองคนช่วยกันแบบโกรกกราก