กับยางเป็นเครื่องมือดักจับตายหนูที่อาศัยอยู่ในท้องนา มีส่วนประกอบของไม้ไผ่ ยางในรถจักรยาน เชือก ใช้ยางเป็นแรงดีดกลับกระตุกเชือกให้รัดคอหนูตายอย่างรวดเร็ว ได้ยินเสียงดีดกลับของยางเสียงดังแคล็บ....เสียงและความเร็วของเครื่องมือ จึงเชื่อกันว่าทำให้มันเกิดมีชื่อใหม่เรียก สกายแล็บ (เป็นชื่อที่พรานดักหนู อำเภอนางรอง,หนองกี่,ปะคะ ใช้เรียก) โดยเรียกให้สอดคล้องกับเหตุการณ์ในอดีตที่สถานีอวกาศ ชื่อ สกายแล็บ ตกเข้าสู่บรรยากาศของโลกด้วยความเร็วและแรงเป็นที่หวาดกลัวของบุคคลทั่วไป
ลักษณะของเครื่อง ใช้ไม้ไผ่ตัดเอาข้อและผิวไม้เหลาเป็นแผ่นเกือบกลม ยาวประมาณ 60-70 เซนติเมตร ใช้เป็นไม้หลักที่โคนเสี้ยมปลายแหลม ส่วนข้อบากเป็นบ่าห่างจากปลายโคนประมาณ 18 เซนติเมตร ใช้ตั้งสลักเจาะรูแรกห่างจากปลายโคนประมาณ 14 เซนติเมตร ร้อยเชือกผิวไม้ทะลุเข้าเนื้อไม้ขมวดเชือกทำเป็นบ่วง ที่ผิวไม้ปล่อยป็นเชือกให้ยาวไว้ก่อน เจาะรูที่สองเหนือรูแรกเล็กน้อย โดยเจาะคู่กันสองรูร้อยเชือกทั้งสองรู ทำห่วงบังคับสายเชือก และใช้เป็นห่วงสลักขัด ใช้เชือกเส้นแรก ร้อยผ่านห่วงเชือกเส้นที่สอง ผูกเชือกให้เป็นปมห่างจากรูแรก 24 เซนติเมตร ใช้เชือกเส้นเดียวกัน สลักที่ทำจากไม้ไผ่ ปลายแหลมผูกยาว 3.5 เซนติเมตร โดยผูกแน่นกันโคนสลัก คะเนให้ปลายสลักห่างจากปมเชือก 2 เซนติเมตรปลายสุดของเชือกผูกรัดกับเส้นยาง ปลายเส้นยางอีกข้างหนึง ผูกรัดกับปลายไม้ เส้นยางจะดึงเชือกให้ตึงตามแท่งไม้
เวลาใช้จะดึงเส้นยางมาที่โคนไม้ ให้โคนสลักวางตั้งบนบ่า ปลายสลักสอดเข้าในห่วง ปลายเชือกจะหย่อนใช้ทำห่วง ใช้โคนเสียบริมทางเดินของหนู ทำห่วงเชือกวางดักขวางกลางเส้นทาง เมื่อหนูเดินผ่านหัวจะเข้าไปในบ่วงติดคอ และเมื่อหนูเดินต่อไปหรือเริ่มดิ้น ปมเชือกจะขึ้นไปดันเชือกที่ปลายสลัก สลักจะหลุดด้วยแรงดีดกลับของเส้นยาง ปลายเชือกที่เป็นห่วงก็จะกระตุกกลับอย่างรวดเร็วรัดคอหนู ด้วยแรงดีดกลับของเส้นยางจะทำให้หนูถูกบ่วงเชือกรัดคอตายอยู่บริเวณโคนไม้หลัก