กระโดดยางเป็นการเล่น ‘หนังยาง’ ของเล่นที่ใช้ยางวงหรือยางรัดแกง ร้อยเข้าด้วยกันเป็นเส้นยาวมีความยืดหยุ่นสูง
หนังยางเป็นวัตถุดิบที่หาง่ายตามบ้าน การทำ ‘หนังยาง’ เพื่อมาเล่นต้องสะสมยางวงให้ได้จำนวนมากพอ เรียนรู้ทักษะการทำหนังยางได้ไม่ยากฝึกทำครั้งเดียวจะทำได้ตลอด
ปัจจุบันมียางวงหลากหลายสีจำหน่าย ทำให้ผู้เล่นมีวัตถุดิบในการประดิษฐ์ของเล่นเองเยอะขึ้น ประโยชน์ของการเล่นกระโดดยาง ด้านร่างกาย บริหารกล้ามเนื้อทุกสัดส่วนสอดผสานกับการใช้สายตา ด้านจิตใจ สนุกสนานกับการได้ออกกำลังกาย ท้าทายในการเล่นให้ผ่านแต่ละด่าน เรียนรู้การควบคุมอารมณ์เมื่อเล่นไม่ผ่านตา ด้านปัญญา เรียนรู้การควบคุมร่างกายเพื่อให้กระโดดผ่านแต่ละด่าน สังเกตความสามารถและข้อจำกัดของร่างกายแก้ไขข้อบกพร่องเสริมด้วยเทคนิคและวิธีเล่นแบบอื่น อาทิ หากกระโดดไม่ข้ามให้เปลี่ยนท่าเป็นตีลังกาแทน นอกจากการเล่นแล้วการทำ ‘หนังยาง’ ยังทำให้รู้จักคุณสมบัติของยางวงอีกด้วย ด้านสังคม เรียนรู้การเล่นเป็นทีม เคารพกติกา เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์เมื่อแพ้หรือชนะ
วิธีทำ
ร้อยยางวงให้ได้ความยาวตามต้องการ เริ่มจากนำยางวงหนึ่งวงมาเป็นตัวเริ่ม แล้วนำยางวงเส้นต่อไปมาสอดเข้าวงแรก ตามด้วยยางวงเส้นที่สามสอดเข้าเส้นที่สองโดยใช้นิ้วมือเกี่ยวเอาไว้ และนำยางวงเส้นต่อไปร้อยไปเรื่อยๆ ทำทีละเส้นลักษณะคล้ายโซ่ ทั้งนี้หากต้องการความแข็งแรง ให้ใช้ยางวงสองเส้นในการร้อยแต่ละครั้ง เมื่อร้อยจนได้ความยาวที่ต้องการแล้ว สอดยางเส้นสุดท้ายแล้วมัดด้วยเงื่อนตาย
วิธีเล่น
มีผู้เล่นอย่างน้อย 3 คน แต่ส่วนใหญ่จะเล่นกันมากกว่า 5 คน ตกลงกันว่าใครจะเป็นผู้ถือหนังยางเพราะตำแหน่งนี้จะเป็นตั้งแต่เริ่มเล่นจนจบ หากผู้กระโดดไม่สามารถกระโดดข้ามได้ถือว่าแพ้ ต้องหยุดเล่นแล้วนั่งดูผู้ที่เหลือเล่นจนจบเกม แต่ถ้ากระโดดผ่านก็ขยับไปกระโดดตาต่อไป กระโดดยางจะเป็นการกระโดดไล่ระดับความสูงเริ่มตั้งแต่เลี่ยดินไปจนสูงสุดมือชู แต่ละด่านจะเรียกว่า ตา หรือ อี
การเล่นกระโดดยางจะมีกติกาต่างกันไปเล็กน้อยในแต่ละพื้นที่
ตาแรก อีพื้น มือข้างนึงจับหนังยางให้ติดพื้น ผู้กระโดดกระโดดข้าม บางพื้นที่จะยกหนังยางตอนกระโดด
ตาสอง อีเข่า พันหนังยางที่เข่าหนึ่งข้าง ให้ทีมตรงข้ามกระโดด โดยกำหนดว่าต้องกระโดดไม่โดนหนังยาง แล้วแต่กำหนดว่าจะให้กระโดดกี่ครั้ง
ตาสาม อีก้น พันหนังยางใต้ก้น ให้ทีมตรงข้ามกระโดด โดยกำหนดว่าต้องกระโดดไม่โดนหนังยาง แล้วแต่กำหนดว่าจะให้กระโดดกี่ครั้ง
ตาสี่ อีเอว พันหนังยางรอบเอว ส่วนใหญ่ให้กระโดด 20 ครั้ง จะมีสองท่ากระโดดสำหรับหญิงและชาย ได้แก่ หญิงเอาขาข้างที่ถนัดเกี่ยวหนังยางไว้ใต้เข่าและเอาขาอีกข้างโดดข้ามหนังยางไปทำซ้ำจนครบ 20 ครั้ง และชายการกระโดดเอาขาข้างที่ถนัดเกี่ยวไปข้างหน้าให้ขาแตะเป็นเลขสี่ และเอาขาอีกข้างกระโดดข้ามตามไปจนครบ 10 ครั้ง
ตาห้า อีพุง เหมือนอีเอว แต่กำหนดการเล่นหญิง 10 ครั้ง ชาย 5 ครั้ง
ตาหก อีอก เหมือนอีพุง แต่กำหนดการเล่นหญิง 3 ครั้ง ชาย 5 ครั้ง
ตาเจ็ด อีรักแร้ เหมือนอีพุง แต่กำหนดการเล่นหญิง 2 ครั้ง ชาย 1 ครั้ง
ตาแปด อีคอ กระโดดท่าหญิงครั้งเดียว
ตาเก้า อีหู เหมือนอีคอ
ตาสิบ อีหัว กระโดดท่าหญิง 1 ครั้ง มีตัวช่วยโดยใช้นิ้วก้อยเกี่ยวหนังยางลงมาพอสมควรแล้วกระโดด
ตาสิบเอ็ด อีหู เป็นด่านสุดท้ายในการเล่น มีการเล่น 2 แบบ คือ ท่าตีลังกาเอาเท้าเกี่ยวหนังยางแล้วข้ามไป และอีกท่าคือ ท่าคาราเต้ ใช้สันมือข้างที่ถนัดกดหนังยางลงมาพอสมควรแล้วข้ามด้วยท่าหญิง
การเล่นแต่ละด่าน เมื่อจบแล้วให้เปลี่ยนผู้เล่นคนอื่นมาเล่นต่อ ถ้าในการเล่นแต่ละด่านถ้าผู้เล่นในทีมที่เล่นผ่านจะมีสิทธิ์เล่นแทนเพื่อนที่เล่นไม่ผ่านได้ แต่ถ้าหมดผู้เล่นในทีมแล้ว คือ เล่นไม่ผ่านหมดจะต้องไปถือหนังยางแทนผู้เล่นอีกฝ่าย
หมายเหตุ
ภาพจาก https://www.sanook.com/women/7802/