ขนมครก เป็นหนึ่งในขนมยอดนิยมของคนไทย รวมทั้งคนสมุยมายาวนาน สิ่งสำคัญในการทำขนมครก นอกจากแป้งขนมครกแล้ว ที่ขาดไม่ได้คือ "เบ้าขนมครก"
เบ้าขนมครกในอดีต ทำจากดินเผา มีทรงกลมแบน มีหลุมสำหรับหยอดแป้งหลายหลุม และมีฝาปิดสำหรับแต่ละหลุม พร้อมเตาถ่านขนาดพอดีกับเบ้าขนมครก ซึ่งทำจากดินเผาทั้งหมด
การทำขนมครกของชาวสมุยในอดีต จะเริ่มจากการทำแป้งโดยนำข้าวสารเก่าซาวน้ำให้สะอาด แช่ค้างคืนไว้ แล้วจึงนำข้าวสุก เกลือป่น และน้ำเปล่า ผสมรวมกับข้าวสารเก่าที่แช่ค้างคืน จากนั้นจึงนำไปโม่ด้วยโม่หินจนได้น้ำแป้ง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลานาน
ลำดับต่อมาคือการทำน้ำกะทิหยอดหน้า จะใช้หัวกะทิและเกลือป่นผสมเข้าด้วยกันจนเกลือละลาย แล้วจึงยกขึ้นตั้งไฟจนเดือดแล้วยกลงพักให้เย็น
เมื่อจะหยอดขนมครก ต้องใช้ลูกประคบที่ทำจากกาบมะพร้าวห่อผ้าขาวเช็ดที่หลุมขนมครกให้ครบทุกหลุมเสียก่อน จากนั้นนำเบ้าขึ้นตั้งไฟให้ร้อนปานกลาง หยอดแป้งลงในหลุมแล้วปิดฝาทิ้งไว้ 2-3 นาที แล้วจึงหยอดกะทิประมาณครึ่งช้อนชาต่อหลุม ปิดฝา รอจนขอบแป้งเหลืองจึงแคะออกด้วยช้อน โดยเริ่มจากตรงกลางก่อน เพราะร้อนกว่าบริเวณขอบเบ้า ขนมครกจึงสุกเร็วกว่า นำขนมที่แคะแล้วมาประกบกันเป็นคู่ วางบนใบตอง เพื่อนำไปรับประทานต่อไป
เบ้าขนมครกที่ทำจากดินเผา จะมีฝาปิดแยกแต่ละหลุม ขนมจะได้รับความร้อนดีกว่าและสุกพร้อมกันทั้งเตา แต่ปัจจุบัน เบ้าขนมครกส่วนใหญ่ทำจากโลหะและส่วนเตาจะเป็นเตาแก๊สเพื่อความสะดวก ไม่ต้องใช้ถ่านไม้และก่อไฟอีกต่อไป อีกทั้งยังทนทานกว่าแบบดินเผา แต่หากใช้ความร้อนไม่คงที่ แป้งรอบนอกจะแข็งกรอบ แป้งด้านในจะนิ่ม เละ ทำให้ขนมครกไม่อร่อย
เบ้าขนมครก
อัพเดตเมื่อ 13 พ.ค. 2564
คำอธิบาย