เพนียดต่อนกเขา



คำอธิบาย

เพนียดต่อนกเขาเป็นเครื่องมือดักนกที่เกิดจากความเข้าใจพฤติกรรมของนกตามธรรมชาติ มีความยาว 0.5-1 เมตร แต่ถ้าเป็นเพนียดต่อนกเขาชวาจะขนาดเล็กลงมา โดยมีส่วนประกอบสำคัญดังนี้

1) แม่เพนียด โครงสร้างหลัก ทำจากไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้ยูง (พะยูง) ไม้ทัน (พุทรา) ไม้สัก แต่ไม่ต้องแข็งมากเพราะต้องเจาะรูใส่ส่วนประกอบอื่นด้วย โดยด้านหนึ่งของแม่เพนียดจะเจาะเป็นช่องและบากเพื่อประกอบตุ้มหรือกรงนกต่อ
2) ตุ้ม (กรงนกต่อ) สมัยก่อนจะทำจากไม้ไผ่ซี่เล็ก แต่ปัจจุบันใช้ลวดแทน เพราะหาง่ายและทนทานกว่า ส่วนใหญ่เป็นลวดจากยางรถยนต์หรือยางมอเตอร์ไซค์ที่ไม่ใช้แล้ว ตุ้มที่ดีต้องมีซี่กรองถี่ ๆ เพื่อป้องกันนกป่า เช่น นกกะปูด เหยี่ยว มาตีนกต่อในตุ้ม ถ้าตุ้มไม่แข็งแรง นกป่าอาจดึงทึ้งนกต่อจนคอหักตายได้
3) ไม้คอน ทำจากไม้ไส้ตันหรือเถาวัลย์เครือแก่ โดยต่อเข้ากับแม่เพนียดด้วยลวดสปริง เมื่อมีนกมาเกาะ ไม้คอนจะงัดดางตบลงมาครอบนกป่า
4) ดางตบ คือตาข่ายที่ติดอยู่ปลายไม้ฝั่งตรงข้ามตุ้ม มีดางบนกับดางล่าง เชื่อมต่อกันด้วยขดสปริงที่ช่วยหน่วงให้สามารถง้างดางบนขึ้นได้โดยไม่งับลงก่อนจะมีนกป่ามาเกาะคอน

การใช้งาน พรานจะเลือกต้นไม้ที่ไม่สูงเกินไปสำหรับวางเพนียดในพื้นที่ที่เป็นทุ่งโล่ง เพื่อให้มองเห็นได้ง่าย ต้องอยู่ใกล้กับที่กำบังของพรานและห่างจากต้นไม้ใหญ่อันเป็นที่อยู่ของนกนกกะปูดหรือเหยี่ยว จะไม่นิยมดักนกในป่าใหญ่เพราะจะมีนกหลายตัว ทำให้นกเข้าเพนียดยาก แต่กลางทุ่งจะมีนกไม่มาก อีกทั้งนกป่าจะมีนิสัยห่วงถิ่น ถ้าได้ยินเสียงนกต่างถิ่นเมื่อไร ต้องออกมาขับไล่เสมอ

เมื่อได้ทำเลแล้ว ก่อนวางเพนียด พรานจะพรางเพนียดด้วยกิ่งไม้ที่ไม่เหี่ยวเฉาง่าย เรียกว่า เผียดเพนียด เพื่อให้นกป่าคิดว่าเพนียดเป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้และไม่กลัวที่จะเข้ามาขับไล่นกต่อ ในการวางนั้น พรานต้องเลือกทิศทางการวางโดยต้องรู้ว่านกป่าจะบินมาจากทิศทางใด ต้องไม่ให้มีอะไรอยู่ใกล้คอน นกจะได้บินมาจับทันที เมื่อวางแล้วก็ง้างดางตบด้านบนให้หงายขึ้นแล้วขัดกลอนไว้ รอนกป่าบินมาเกาะ ไม้คอนจะกระดกลง งัดดางตบให้ดีดมาครอบนกป่าตรึงไว้กับดางล่าง พรานจึงเข้ามาปลดนกป่าต่อไป

ความรื่นรมย์อย่างหนึ่งของพรานนกคือการฟังเสียงนกต่อ บางตัวร้องเสียงดัง ฟังเพราะ ฟังเพลินจนลืมกินข้าว นกต่อบางตัวจะถูกฝึกให้มีความกล้าหาญ ส่งเสียงล่อนกป่าจนกว่าจะเข้ามาติดเพนียด เพราะนกป่าบางตัวฉลาด จะดูเชิงรอบ ๆ ก่อน จะไม่เข้ามาเกาะคอนตั้งแต่แรก แต่ทนเสียงท้าทายของนกต่อไม่ไหวก็ต้องเข้าต่อตีขับไล่จนติดเพนียดในที่สุด นกต่อดี ๆ สามารถขายได้ราคา สร้างรายได้ให้ชาวบ้านเป็นอย่างดี ตัวที่มีเสียงร้องพิเศษ เช่น ร้อง 2-3 กุก กรู๊ก ๆ กรุ๊ก ๆ ๆ พวกนี้ราคาจะสูงหลายพันบาท

นกเขาเมื่อจับได้แล้ว ก็จะนำมาประกอบอาหารกินกันในครัวเรือน เช่น ลาบใส่ก้านกล้วย ผัดเผ็ด คั่ว อ่อม เป็นต้น แต่ปัจจุบันนี้ พรานล่านกเหลือน้อยลง เพราะคนรุ่นใหม่ก็ออกไปทำงานนอกชุมชน ไม่มีเวลารวมกลุ่มกันไปดักนกเหมือนสมัยก่อนอีกต่อไป